BIRD PHARMACY

ใครมีอาการแบบนี้บ้างครับ เสียงแหบ เจ็คอเรื้อรัง กินยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวดไม่หายบางทีแย่ลงด้วย หอบหืด เจ็บหน้าอกหนักขึ้น ไอเรื้อรัง สำลักในเวลากลาางคืน ฝันผุ จนมีกลิ่นปาก หรือมีกลิ่นปากมากจนคนข้างๆไล่ (แฮ่ๆ) อาการเหล่านี้ดูเผินๆจะเหมือนโรคทางเดินหายใจติดเชื้อหรืออักเสบอะไรซักอย่าง กินยาแก้หวัด แก้อักเสบ ฆ่าเชื้อ แก้ปวดอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น บางทีอาการนี้อาจเป็นการมาแบบเงียบๆของ โรคกรดไหลย้อนนอกทางเดินอาหาร ก็ได้นะเออ **มันก็ไม่ได้เงียบซะทีเดียวจริงใหมครับ แต่ว่าอาการที่ร่างกายแสดงให้คุณรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติที่ระบบทางเดินหายใจมันทำให้คุณไม่ได้นึกถึงโรคกรดไหลย้อนไง อิอิ ผมเลยบอกว่ามันมาแบบเงียบๆ** สาเหตุ ก็จะเหมือนๆกับกรดไหลย้อนที่เกิดในหลอดอาหารครับคือ กล้ามเนื้อหูรูดคลายตัวมากกว่าปกติ ทานเยอะไป ทานเหล้า แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ทานแล้วนอน ทานยาแก้ปวดบางประเภทที่มีฤทธิ์ทำให้กรดหลั่งมากขึ้น มีความผิดปกติของกระบังลม ที่เราเรียกว่าโรคกรดไหลย้อนกระบังลม แต่ที่มันไปแสดงอาการที่ระบบทางเดินหายใจก็เป็นกลไกง่ายๆครับ คือกรดมันไหลออกจากหลอดอาหารไปโดน กล่องเสียง หลอดลม คอ ฟัน เพราะมั

เมื่อเช้าผมได้เขียนเรื่อง ผมร่วงกับยาคุมกำเนิด ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เขียนเรื่องยาที่แก้ปัญหาตรงนี้ เลยมานั่งเขียนเพิ่มครับผม thebeautygypsy.com ยาต่อไปนี้เป็นยาที่ใชสำหรับการรักษาผมร่วงที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ อ.ย. และบางชนิดไม่ได้มีข้อบ่งใช้ในการรักษาผมร่วงสำหรับผู้หญิง แต่ก็มีการนำไปประยุกต์ใช้กันอยู่ www.goodbyehairloss.com Minoxidil 2% รูปแบบน้ำสำหรับทาหนังศรีษะ เดิมทียาตัวนี้ผลิตออกมาสำหรับกิน รูปแบบยาเม็ด เพื่อลดความดันโลหิตสูง เมื่อใช้ไปมาพบว่าทำให้ผู้ใช้มีขนเพิ่มขึ้น นักวิจัยก็เลยจัดการนำยาดังกล่าวมาประยุกต์ใช้รักษาผมร่วงจากฮอร์โมน โดยปกติแล้วจะใช้ที่ความเข้มข้น 2% ทาวันละ 2ครั้งๆละประมาณ 1ซีซีบริเวณที่เกิดผมร่วงแต่ก็พบว่าหากใช้ขนาดยาที่สูงขึ้นที่ 5%จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ..ทั้งนี้ก็ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ Aldactone หรือ Spironolactone ยาตัวนี้ปกติใช้สำหรับขับปัสสาวะ โดยออกฤทธิ์ขับปัสสาวะแต่ไม่ทำให้ร่างกายขาดธาตุโปแตสเซี่ยมเหมือนยาขับปัสสาวะบางตัว และพบว่ายา aldactone สามารถยับยั้งฮอร์โมนเพศชายในร่างกายผู้หญิงได้โดยจะออกฤทธิ์ผ่านสองกลไกคือ กดการสร้างฮอร์โมนเพศชาย

ตั้งแต่อ.ย.สหรัฐมีการอนุญาติให้ขายยาคุมครั้งแรกในปี ค.ศ.1960(พ.ศ.2503)  ยาคุมกำเนิดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้หญิงที่ยังไม่ต้องการมีบุตร เรียกได้ว่าฮิตที่สุดสำหรับเครื่องมือที่ใช้คุมกำเนิด แถมพักหลังยาคุมมีออฟชั่นเสริมเรื่องแก้ปัญหาต่างๆของผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาเช่น ลดปัญหาผิวมัน, สิว, อารมณ์ฉุนเฉียวก่อนและหลังประจำเดือน เป็นต้น แต่ก็มีผู้หญิงหลายคนประสบปัญหาผมร่วง ระหว่างที่ทานยาคุม หรือหลังหยุดยาคุมไปแล้วเข้ามาปรึกษาที่ร้าน และโพสในอินเตอร์เน็ตกันเป็นประจำ จนทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า "ยาคุมทำให้ผมร่วงในผู้หญิงได้จริงหรือไม่?"       ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิงประกอบด้วยกลุ่มยาเอสโตรเจน และ โปรเจสตินเป็นส่วนประกอบ หรือบางชนิดมีเฉพาะโปรเจสตินเดี่ยวๆ ปรากฎว่าภายหลังการใช้ยาคุมกำเนิดไม่นานผู้หญิงบางคนที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกายอาจมีอาการผมร่วงรุนแรงมากน้อยต่างกันไป แต่บางคนก็พบปัญหาผมร่วงหลังหยุดยาไปแล้วหลายวัน หรือเป็นอาทิตย์(บางรายเป็นเดือน) และทำสำคัญมันเป็นปัญหาโลกแตกมากๆที่ผู้หญิงบางคนได้รับยาคุมกำเนิดจากแพทย์เพื่อรักษาอาการผมร่วง The American

ใครเคยปวดประจำเดือนจนน้ำตาไหลลองอ่านนี่ดูครับ เป็นเรื่องที่ผมเขียนต่อจากการรีวิวยาคุม Natazia เพราะ dienogest คือยา 1ใน 2ตัวที่มีในยาคุมดังกล่าว เรื่องนี้เริ่มขึ้นจากที่ผมชอบการรีวิวยาคุม หากมีเวลาว่างก็จะมานั่งหาข้อมูลใน US FDA (อ.ย.สหัรฐ)ว่ามียาคุมใหม่ๆได้รับการอนุญาติหรือไม่ ซึ่งเหมือนการงมเข็มในมหาสมุทรมากๆสำหรับผม ปีนี้เจอไปแค่ 2ตัว ดังนี้ 1.ยาคุมฉุกเฉิน ELLA 2.ยาคุมกำเนิด ยีห้อNatazia และในยาคุม Natazia ก็มีส่วนประกอบหลักเป็นฮอร์โมนเพศหญิงสังเคราะห์ ชนิด Progestin มีฤทธิ์หลักๆเด่นๆ คือทำให้เลือดประจำเดือนมาน้อยลง และนี่จึงเป็นที่มาของการรีวิวยาตัวนี้ Dienogest Dienogest เป็นกลุ่มฮอร์โมนโปรเจสตินสังเคราะห์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนโปรเจสโตเจนในท้องตลาดตัวอื่นๆ ดังนี้ มีฤทธิ์โปรเจสโตจินิกสูง ทำให้ผนังมดลูกสร้างได้ไม่เยอะ>>>ประจำเดือนเลยมาน้อย มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนLH และ FSH ได้ปานกลาง>>>จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องกระดูกพรุนและช่วยลดการสร้างผนังมดลูกได้ ไม่มีฤทธิ์การขับเกลือแร่เหมือน ยาสมิน >>ไม่มีฤทธิ์ลดอาการบวมนั้นนั่นเอง มีฤทธิ์ยับ

หลายวันก่อนผมได้เขียนบทความเรื่อง "ข่าว!อ.ย.อเมริกาให้การรับรองยาคุมรุ่นใหม่ Natazia (นาเทเซีย) วางขายในอเมริกา"   ผมคิดว่าจะรีวิวยาคุมใหม่ตัวนี้ให้เร็วที่สุดเมื่อผมหาข้อมูลได้เพียงพอ ตอนนี้คิดว่าถึงเวลาแล้วอิอิ...ยาตัวนี้ชื่อการค้าว่า NATAZIA ไม่แน่ใจเหมือนกันเรื่องการออกเสีย แต่ลองให้เว็บนอกอ่านให้ฟังก็จับได้ว่า "นาเทเซีย" ยายีห้อนี้ผลิตขึ้นมาใหม่2จุดด้วยกันคือ 1.เป็นยาคุมยีห้อแรกบนโลกที่ทำระดับฮอร์โมนมา 4 ระดับ 2.เป็นยาคุมกำเนิดยีห้อแรกที่ได้รับข้อบ่งใช้จาก อ.ย. อเมริกาเรื่องลดประจำเดือนที่มามากผิดปกติ (จนผู้หญิงรำคาญ)***ดอกจันไว้ว่า ที่ไม่เกี่ยวกับโรคอื่นๆ*** 3. ข้อนี้สำหรับผมเอง เป็นยาคุมใหม่ตัวแรกที่พยายามฉีกกรอบการตลาดว่า"ยาคุมกินแล้วต้องผิวสวย หรือกินแล้วจะอกโต" ไม่เน้นผลพลอยได้เรื่องลดสิว เรื่องการลดผิวมัน เหมือนยาคุมอื่นๆที่กำลังดำเนินการตลาดกันอยู่ในประเทศไทย natazia เป็นยากินสำหรับคุมกำเนิดมี 28 เม็ดแต่ละเม็ดจะถูกแบ่งเป็นสี่กลุ่มตามสีดังนี้ Natazia มีฮอร์โมน 2 ชนิดคือ estradiol valerate+dienogest ช่วงที่1/เม็ดที่ 1-2/ สีเหลือง

เรียนตามตรง นะครับการเปิดบล๊อกรีวิวยาคุมออกจะน่าเบื่อเพราะกว่ายาใหม่ๆจะมีการวางจำหน่ายต้องใช้เวลาศึกษาวิจัยกันนาน และกว่าข้อมูลจะมาถึงคนเขียนบางทีก็ นานมากๆเป็นปี ในกรณีผม Natazia(นาเทเซีย) ก็เช่นกันครับ อ.ย. สหรัฐให้การรับรองวางจำหน่ายที่สหรัฐตั้งแต่ 13พฤกษภาคม 2010 กว่าผมจะหาพบก็ปาไป 5ปี เซ็งนะเนี่ย (T-T) บ่นจบแล้วครับ มาเข้าเรื่องยากันดีกว่า เอาเฉพาะตามที่เป็นข่าวนะครับเพราะผมยังรวบรวมข้อมูลยาอยู่ ทาง สำนักข่าว แถลงว่ายายีห้อนาเทเซียเป็นยาคุมตัวใหม่และ ตัวแรกที่ใช้ระดับยา "สี่ระดับ" หมายความว่าในยา 1แผง28เม็ด ยาแต่ละเม็ดแต่ละสัปดาห์จะมีระดับยาฮอร์โมนไม่เท่ากับ โดยออกแบบมาเป็น สี่ระดับ สังเกตนะครับเม็ดยาจะมีสี่สี คือ เหลือเข้ม , ชมพู , เหลืองอ่อน และ แดง ใน 1เม็ดยาจะประกอบด้วยฮอร์โมนดังต่อไปนี้ เอสโตรเจน(Estrogen) ชนิดที่เรียกว่า เอสตราไดออล วาเลเรต (    estradiol   valerate ) >> ไม่ใช่ยาใหม่ โปรเจสติน( progestin ) ชนิดที่เรียกว่า ไดอีโนเจส ( dienogest) >>> ยาใหม่ ยาฮอร์โมนตัวใหม่ที่ว่าก็คือ ตัว ไดอีโนเจส นี่แหละครับ(ส่วนตัวหมายเลข1เป็นยาเ

สวัสดีครับเคยสัญญาไว้หลายวันแล้วว่าจะมารีวิวยาคุมยีห้อโลล่าให้ฟัง ก็ติดนู้นนี่มาหลายวันเพิ่งจะว่างวันนี้แหละครับ เริ่มกันเลยครับ     ยาคุมนี้แกะกล่องมาก็เหมือนยาคุม 21เม็ดอื่นๆละครับคือสำหรับคุมกำเนิดชนิดกินทุกวันประกอบด้วยตัวยา Levonogestrel และ ethinylestradiol อ่านแล้วงงกับชื่อยาก็ไม่แปลกครับชั่งมันฮ่าๆๆๆ มียาสองตัวไม่ใช่ยาใหม่ และเป็นยาเดียวกันกับที่อยู่ในยาคุมพื้นฐานตัวอื่นๆเช่นแอนนา แต่! หากเพื่อนๆได้ลองดูบนแผงสีฝ้าด้านล้างเพื่อนๆจะเห็นว่ามีปริมาณตัวยาดังนี้คือ Levonogestrel 0.10 mg Ethinylestradiol 0.02mg  (ยาคุมแอนนามีขนาดยาดังนี้ Levonogestrel 0.15mg + Ethinylestradiol 0.03mg ) อาจจะดูไม่เยอะในสายตาทั่วๆไปแต่สำหรับคนกินยาคุมนี่คือความแตกต่างที่เยอะมากๆของปริมาณฮอร์โมน ทำให้คนที่เริ่มทานยาใหม่ๆ หรือมือใหม่กินยาคุม ไม่อ๊วก ไม่อาเจียน ได้ง่ายๆเหมือนกินแอนนา ซึ่งเราจัดอยู่ในกลุ่มฮอร์โมนสูง นี่คือข้อดีข้อแรก ของการลดปริิมาณฮอร์โมนลง(ถ้าใครเคยอ่านเรื่องยาคุม synfonia ที่มียาเดียวกับ melodia แต่ฮอร์โมนต่ำลงซึ่งใช้หลักการเดียวกันคือลดปริมาณฮอร์โมนลงจาก melodia

 ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 1.โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาด (ยกเว้นจะผ่าตัดแก้ไข)  จะเป็นๆ หายๆ   อาการจะดีขึ้นหรือไม่  ไม่ได้อยู่ที่ยา  อยู่ที่การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยเป็นสำคัญ 2.อาการปวดแสบร้อน  บริเวณหน้าอก, ลิ้นปี่ และคอ  เกิดจากกรดที่ไหลขึ้นมาจากกระเพาะผ่านบริเวณหน้าอก,  ลิ้นปี่และคอ  ทำให้เกิดอาการปวดแสบร้อนบริเวณดังกล่าว 3.การที่เรอ  คลื่นไส้  หรือมีน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาที่อก หรือคอ   เกิดจากการที่ความดันช่องท้องเพิ่มมากขึ้น  ซึ่งอาจเกิดจาก ◦รับประทานอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ ◦รับประทานอาหารที่ไม่แนะนำให้รับประทานโดยเฉพาะ ๆ  อาหารที่ปรุงด้วย การผัด  และการทอดทุกชนิด (อาหารมัน จะย่อยยาก ทำให้ท้องอืดได้ง่าย),  นม (รับประทานได้เฉพาะนมไร้ไขมัน คือ FAT=0%), น้ำเต้าหู้ (ทำจากถั่ว จะทำให้เกิดแก๊สในช่องท้องมาก), ชา และกาแฟ (ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดระหว่างกระเพาะและหลอดอาหารส่วนปลาย หย่อน), ไข่ (รับประทานได้เฉพาะไข่ขาว), น้ำอัดลม (ทำให้เกิดแก๊สในช่องท้องมาก) ◦น้ำหนักตัวที่เพิ่ม หรือ เกินค่าปกติ (การที่มีน้ำหนักตัวมากจะทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น) ◦ท้อ

ลูกเลี้ยงยากมากเลยคะ งอแงตลอดหลังทานนม ไม่ยอมนอนราบ ไอ มีเสียงหอบตลอด อาการเหล่านี้อาจเป็นอากการ"กรดไหลย้อนในทารก"ก็เป็นได้ กรดไหลย้อนในเด็ก ในทารกมีด้วยหรือ? ตอบ มีครับและมีโอกาสสูงด้วยเพราะ 1.เด็กทารกอาจมีอวัยวะต่างๆพัฒนาไม่สมบูรณ์ในกรณีนี้คือหูรูดระหว่างกระเพาะและหลอดอาหาร 2.หลอดอาหารอาจจะเคลื่อนไหวไม่สมบูรณ์ทำให้อาหารลงไปที่กระเพาะช้า 3.กระเพาะอาหารยังบีบตัวได้ไม่สมบูรณ์ทำให้อาหารลงสู่ลำไส้เล็กได้ช้า 4.เด็กส่วนมากทานนมในท่านอน ซึ่งมีโอกาสสูงที่อาหารจะไหลออกมา ที่หลอดอาหาร จะรู้ได้อย่างงไรว่าเด็กมีอาการกรดไหลย้อน ไม่ใช่เด็กเลี่ยงยาก หรือโคลิก ตอบ >>ต้องสังเกตุอาการของลูกว่าร้องตอนใหนครับ เช่นร้องเมื่อทานนมเสร็จแล้วนอน หรือมีอาการไอ เสียงแหบ แหวะนมบ่อยเกินไป และเด็กอาจไม่ยอมนอนราบเลยก็ได้ เช่นพ่อแม่ให้กินนมเสร็จจะให้ลูกนอน แต่เด็กกลับร้องให้โยเยทุกครั้งเป็นต้น กรดไหลย้อนในทารกมีวิธีการรักษาอย่างไร ตอบ จะรักษาคล้ายๆกับในผู้ใหญ่เลยครับโดยแพทย์จะเลือกยาที่ปลอดภัยในเด็กเช่นยาที่มีส่วนประกอบของยา ranitidine , lansoprazole และใช้ร่วมกับยาลดอาการปวดแสบร้

โรคกรดไหลย้อนในผู้สูงอายุ ในผู้สูงอายุเซลล์/เนื้อเยื่อทุกชนิดของร่างกายจะเสื่อมลงรวมทั้งของหูรูดนี้ ดังนั้นจึงเกิดการหย่อนยาน ทำงานประสิทธิภาพลดลง อาหารและกรดในกระเพาะอาหารจึงดันท้นย้อนกลับเข้าในหลอดอาหาร กระเพาะอาหารบีบตัวลดน้อยลงจากสาเหตุต่างๆ เช่น จากสูงอายุขึ้น (อายุ 40 ปีขึ้นไป เซลล์ต่างๆทุกชนิดของร่างกายรวมทั้งของหูรูดและของกระเพาะอาหารจะค่อยๆเสื่อมลงๆ) หรือ จากการอักเสบของกระเพาะอาหาร หรือของเส้นประสาทกระเพาะอาหาร หรือจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคลายเครียด ยาลดกรดยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อ หรือจากสารบางอย่างที่ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนยาน เช่น สุรา/เครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์ ซึ่งจากการบีบตัวลดลง จึงส่งผลให้เกิดการคั่งของอาหารและกรด จึงเพิ่มแรงดันในกระ เพาะอาหาร ดันให้หูรูดนี้เปิด อาหาร/กรดจึงไหลย้อนกลับเข้าสู่หลอดอาหาร สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อนในผู้สูงอายุ ได้แก่ อายุยิ่งสูงขึ้น โอกาสเกิดโรคนี้ยิ่งสูงขึ้น การกินอาหารแต่ละมื้อในปริมาณสูง โดยเฉพาะกินมื้อเย็นก่อนนอน เพราะปริมาณอาหารยังค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร และการนอนราบยังเพิ่มแรงดันในกระเพาะอาหาร อาหารและกรดจึงไหลย้

ทำไมทานยามานานแต่ไม่หายจากกรดไหลย้อนซักที? ขอบคุณรูปภาพจาก Knox "เป็นคำถามที่สั้นๆ แต่คำตอบยาวครับ เริ่มจากเราต้องดูที่สาเหตุของการเกิดโรคกรดไหลย้อน"         คนส่วนมากจะพอทราบกันว่าเกิดจาก "กรด"ไหลย้อนขึ้นมากัดหลอดอาหารทำให้รู้สึกปวด ซึ่งส่วนมากก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ คือจะมีเฉพาะกรดจากกระเพาะขึ้นมากัด ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก จุก แน่น หรือหอบหืด ดังนั้นการใช้ยาคือมุ่งไปที่การยับยั้งไม่ให้กรดออกมานั่นเองยาที่ว่าคือ ยาโอมีพราโซล(omeprazole) + ยาเคลือบกระเพาะเช่นแอนตาซิน+ ยาอื่นๆตามแต่อาการ    แต่พอทานไปๆ คนไข้กลับไม่มีอาการดีขึ้นดังนั้นจึงมีแพทย์หลายคนออกงานวิจัยออกมาครับ ถึงสาเหตุที่ยาไม่ได้ผลนั่นก็คือ"ไม่ได้มีเฉพาะกรด"ไหลย้อนออกมากัดหลอดอาหารอย่างเดียว เท่านั้น   คำถามคือ   นอกจากกรดแล้วยังมีอะไรอีกบ้างที่สามารถกัดหลอดอาหารได้?   คำตอบ       น้ำย่อยเป๊บซิน(pepsin)ในกระเพาะอาหาร และน้ำดีจากลำไส้เล็กส่วนต้น ด้วยเหตนี้เองคนไข้หลายๆคนจึงไม่ตอบสนองต่อยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารเพราะแม้ว่า กรดจะหายไป(เกือบหมด) แต่น้ำย่อย และน้ำดีก็อาจขึ้นม

วันนี้ไม่รู้เป็นไรอยากทดลองทำกลไกแก้กรดไหลย้อนและแสบร้อนกลางอกของยาAlgycon โดยผมพยายามทำออกในรูปแบบgif animation ใช้app gift Maker  +นำภาพที่แต่งเติมจากs-Note มาใช้หวังว่าจะได้ผล

 โรคกรดไหลย้อน  เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร ไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการสำคัญ ได้แก่ อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก และมีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขม ไหลย้อยขึ้มาทางปาก ภาวะกรดไหลย้อนนี้ ถ้าเป็นเรื้อรังอาจทำให้เกิดพยาธิสภาพในหลอดอาหาร ได้แก่ หลอดอาหารอักเสบ มีเลือดออกจากหลอดอาหาร และอาจทำให้ปลายหลอดอาหารตีบได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุหลอดอาหาร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง อาจกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ในที่สุด(http://www.phyathai.com/medicalcenterdetail_article/11/500/pyt2/th) Cr. Thaifititp ดังนั้น ถ้าดูจากสาเหตุของโรคกรดไหลย้อน ยาก็ควรจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตเลยดังนี้ 1.ยาก็ควรจะไหลขึ้นมากับกรดเพื่อมาเคลือบหลอดอาหารได้ 2.ต้นเหตที่ทำให้หลอดอาหารแสบ คือกรด ดังนั้นเราต้องลดความเป็นกรด หรือเพิ่มค่า pH ให้ไปทางเป็นกลางนั่นเอง 3.ต้องใช้ยาที่ยับยั้งอาการอ๊วก อาเจียน แต่วันนี้ผมขอกล่าวเฉพาะยาชนิดแรกนะ ถ้ากล่าวหมดคงไม่ทันมันยาวมาก ยาชนิดที่ 1  ยาเคลือบที่มีความสามารถไหลขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ ซึ่งในปัจจุบัน ในเมืองไทยมียาที่ว่าอยู่สองยีห้อด้วยกัน