รีวิวยาคุมยีห้อ Natazia (จากการอ่านข่าวของอเมริกา) ยาคุมชนิดใหม่"เน้นดูแลสาวๆที่มีปัญหารอบเดือนเยอะผิดปกติ
หลายวันก่อนผมได้เขียนบทความเรื่อง "ข่าว!อ.ย.อเมริกาให้การรับรองยาคุมรุ่นใหม่ Natazia (นาเทเซีย) วางขายในอเมริกา" ผมคิดว่าจะรีวิวยาคุมใหม่ตัวนี้ให้เร็วที่สุดเมื่อผมหาข้อมูลได้เพียงพอ ตอนนี้คิดว่าถึงเวลาแล้วอิอิ...ยาตัวนี้ชื่อการค้าว่า NATAZIA ไม่แน่ใจเหมือนกันเรื่องการออกเสีย แต่ลองให้เว็บนอกอ่านให้ฟังก็จับได้ว่า "นาเทเซีย" ยายีห้อนี้ผลิตขึ้นมาใหม่2จุดด้วยกันคือ
1.เป็นยาคุมยีห้อแรกบนโลกที่ทำระดับฮอร์โมนมา 4 ระดับ
2.เป็นยาคุมกำเนิดยีห้อแรกที่ได้รับข้อบ่งใช้จาก อ.ย. อเมริกาเรื่องลดประจำเดือนที่มามากผิดปกติ (จนผู้หญิงรำคาญ)***ดอกจันไว้ว่า ที่ไม่เกี่ยวกับโรคอื่นๆ***
3.ข้อนี้สำหรับผมเอง เป็นยาคุมใหม่ตัวแรกที่พยายามฉีกกรอบการตลาดว่า"ยาคุมกินแล้วต้องผิวสวย หรือกินแล้วจะอกโต" ไม่เน้นผลพลอยได้เรื่องลดสิว เรื่องการลดผิวมัน เหมือนยาคุมอื่นๆที่กำลังดำเนินการตลาดกันอยู่ในประเทศไทย
natazia เป็นยากินสำหรับคุมกำเนิดมี 28 เม็ดแต่ละเม็ดจะถูกแบ่งเป็นสี่กลุ่มตามสีดังนี้
ช่วงที่1/เม็ดที่ 1-2/ สีเหลือง จะประกอบด้วยตัวยา เอสโตรเจน 3 มิลลิกรัม
ช่วงที่2/เม็ดที่ 3-7/ สีแดงอ่อน ประกอบด้วยตัวยา เอสโตรเจน 2มิลลิกรัม และ โปรเจสติน ชนิดใหม่ชื่อว่า ไดอีโนเจส (dienogest) 2 มิลลิกรัม
ช่วงที่3/เม็ดที่8-24/ สีเหลือง ประกอบด้วยตัวยา เอสโตรเจน 2 มิลลิกรัม และไดอีโนเจส 3มิลลิกรัม
ช่วงที่4/เม็ดที่25-26/ สีแดงเข้ม ประกอบด้วยตัวยา เอสโตรเจน 1 มิลลิกรัม
ส่วนเม็ดสีขาวที่เหลือ ไม่มีตัวยา เราจะเรียกมันว่ายาหลอก(หลอกให้กินครบ 28เม็ดคนกินจะได้ไม่ลืมว่ากินแผงถัดไปเมื่อไร)
คำถามแรกเมื่ออ่านถึงตรงนี้ต้องถามแน่ๆ จะแบ่งยาให้มั่วๆทำไมหลายๆกลุ่ม เพราะปกติ มีแบบเดียวก็งงกันอยู่แล้ว ..จริงครับผมก็ไม่ค่อยสบายใจในเรื่องนี้เพราะจะทำให้ผู้ใช้ยาสับสนได้ และส่งผลต่อการคุมกำเนิดและการรักษาต่อไป แต่การแบ่งยาให้มีหลายระดับฮอร์โมนน้ันมีข้อดีอยู่ครับ คือเลียนแบบการหลั่งฮอร์โมนของร่างกายคนเพราะปกติร่างกายคนไม่ได้หลั่งฮอร์โมนเท่าๆกันทุกวันมันจะขึ้นๆลงๆเหมือนคลื่น ดังนั้นหากยาคุมฯทำออกมาได้ใกล้เคียงกับที่ร่างกายเราทำ ร่างกายเรารู้สึกว่าได้ฮอร์โมนปกติจะได้ไม่ต่อต้านไรเงี้ย ...^_^
ต่อมาเรื่องตัวยาตัวใหม่ที่เป็นส่วนประกอบหลักในยาคุมยีห้อNataziaคือ ไดอีโนเจส(dienogest) ยาตัวนี้เป็นฮอร์โมนเพศหญิงสังเคราะห์ประเภทโปรเจสโตเจน หน้าที่หลักของฮอร์โมนตัวนี้ในยาคุมคือสร้างเยื้อเมือกปกคลุมปกมดลูกส่งผลให้สเปิร์มผ่านเข้าไปยังมดลูกได้าก, ทำให้เนื้อเย้อบุมดลูกไม่พร้อมที่จะรับการฝังตัวของไข่ที่ผสมกับเสปิร์มแล้ว นอกจากนั้นด้วยควาใหม่ของมันยังสามารถต้านฤทธิ์ฮอร์โมนเพศชายในตัวผู้หญิงได้(ทั้งผู้หญิง และชายจะมีฮอร์โมนทุกแบบเหมือนกันต่างกันที่ปริมาณ) ผลของมันคือช่วยลดการเกิดสิว และไม่ทำให้หน้ามัน แต่ปรากฎว่าเมื่อผมไปอ่านผลการทดลองพบว่ามีผู้เข้าร่วมการทดลองราวๆ 1% ( Palcios at al.) มีอาการบวมน้ำ 0.9% ตึงคัดเต้านม 3.6% ซึ่งผมรู้สึกว่ามันเยอะไปนะ แต่ก็พบข้อดีเรื่อง ทำให้ประจำเดือนมาน้อยลงได้ในผู้หญิงที่มาเยอะผิดปกติโดยที่ไม่ได้เป็นผลจากโรคอืนๆ ดังนั้นเลยเป็นที่มาของการขึ้นทะเบียนว่าใช้คุมกำเนิดและรักษาอาการประจำเดือนมามากผิดปกติ ...การตลาดตอนนี้ที่ อเมริกาจึงเน้นไปที่ผู้หญิงมีปัญหารอบเดือนเพื่อให้ตรงกับที่ขึ้นทะเบียนไว้
สรุป Natazia จัดเป็นยาใหม่ของบริษัทยายักษ์ใหญ่แห่งเยอรมัน Bayer ทีวางจำหน่ายยาในเมืองไทยหลายๆตัว ยีห้อดังๆสำหรับคนทั่วไปก็dian, yasmin, yaz, canesten เป็นต้น โดยมี
ข้อดีคือ
1.มีตัวยาสี่ระดับ
2.สามารถช่วยลดปริมาณรอบเดือนที่เยอะเกินไป จากข้อดีีนี้ในเมืองไทยเลยมีการขึ้นทะเบียน
ตัวยาไดอีโนเจสสำหรับรักษาโรคเยื้อบุมดลูกเจริญผิดที่ได้ (จะมาเล่าให้ฟังวันหลัง)>เขียวแล้วแต่ลืมแปะ<<
ข้อเสีย
1.จากข้อดีข้อที่1 ทำให้ผู้ใช้ยาอาจเกิดอาการสับสนในการกินได้ และมีโอกาสมากทีเดียวที่จะกินยาข้ามวันทำให้ผลการใช้ยาไม่เป็นไปตามที่หวัง
2.เนื่องจากยามีฤทธิ์ลดปริมาณรอบเดือน ดังนั้นทำให้หลายๆคนเจอปัญหารอบเดือนน้อยได้ จะสร้างความไม่สบายใจแก่ผู้หญิง เพราะเค้าจะรู้สึกว่าไม่ได้ขับเลือดเสีย(จริงๆไม่ได้มีเลือดเสียนะ)
3.ราคา ..ใน usa ยานี้ขายกันที่แผงละ 851.4 บาท(คิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 36 บาท/ dolla) ถือว่าแพงโคตรๆสำหรับการคุมกำเนิดในเมืองไทย ถ้าหากจะเข้ามาขายในไทยคงไม่ใช่ราคานี้อย่างแน่นอน ผมว่าเต็มที่เลยนะราคาปลีกไม่น่าจะเกิน 500บาท
4.ไม่เหมาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะๆ BMI มากกว่า 30 เพราะบริษัทเค้าไม่ได้ทดลองไว้ว่ายาได้ผลหรือไม่ เค้าวิเคราะกันว่าที่ไม่ได้ทดลองเพราะคนอ้วนกินยาคุมไม่ว่ายีห้อใหนก็จะเกิดความเสี่ยงเรื่องโรคหลอดเลือดอุดตันจากเกร็ดเลือดได้สูงมากๆอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แนะนำ และแน่นอนครับ สาวๆทีสูบบุหรี่ ,อายุ 35 ขึ้นไปก็ไม่ควรทานเช่นกัน
ความเห็นส่วนตัวสำหรับยาคุมตัวใหม่ยีห้อนี้ รู้สึกว่าเท่าที่อ่านมาน่าจะไม่เหมาะกับคนไทยทั่วๆไปเท่าไรนักจากข้อเสียหลายๆข้อข้างต้น แต่ในทางการแพทย์ยาตัวนี้ยังถือว่าจำเป็นนะครับเพราะสามารถช่วยให้ผู้หญิงที่มีปัญหาด้านประจำเดือนที่มากกว่าปกติ สบายตัวขึ้นได้....สุดท้ายยาก็เหมือนเหรียญสองด้านมีข้อดีย่อมมีข้อเสีย ..และต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอครับ
อ้างอิง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปกติแล้วการรีวิวในบ้านเราหมายถึงเอาสินค้ามาแกะ มาชิม มาโชว์ให้ดูพร้อมทั้งพูดถึงข้อดีข้อเสีย แต่สำหรับยาคุมตัวนี้ยังคงไม่ได้วางขายในบ้านเราจึงต้องใช้การอ่านข่าวมาแปลให้เพื่อนๆฟังอีกที แะลคงแปลกหน้าดูถ้าผมเอายาคุมมากินแล้วมาอธิบายว่ารู้สึกอย่างไร( ฮ่าๆๆๆ ผมยังไม่อยากมีหน้าอกใหญ่แซงภรรยาตัวเอง ^_^) ที่สำคัญยาตัวนี้ยังไม่มีแผนจะวางขายในเมืองไทย ซึ่งผมคิดเป็นการส่วนตัวว่าคงมาจากเหตุผลด้านการตลาด และลักษะของแผงยาที่เป็นยาคุมสี่ระดับ ซึ่งไม่เป็นที่นิยมใช้กันในเมืองไทยเพราะเกิดการสับสน กินผิดถูกได้ง่ายๆทำให้การใช้ยาไม่เป็นไปตามที่ แพทย์และคนกินยาต้องการ
1.เป็นยาคุมยีห้อแรกบนโลกที่ทำระดับฮอร์โมนมา 4 ระดับ
2.เป็นยาคุมกำเนิดยีห้อแรกที่ได้รับข้อบ่งใช้จาก อ.ย. อเมริกาเรื่องลดประจำเดือนที่มามากผิดปกติ (จนผู้หญิงรำคาญ)***ดอกจันไว้ว่า ที่ไม่เกี่ยวกับโรคอื่นๆ***
3.ข้อนี้สำหรับผมเอง เป็นยาคุมใหม่ตัวแรกที่พยายามฉีกกรอบการตลาดว่า"ยาคุมกินแล้วต้องผิวสวย หรือกินแล้วจะอกโต" ไม่เน้นผลพลอยได้เรื่องลดสิว เรื่องการลดผิวมัน เหมือนยาคุมอื่นๆที่กำลังดำเนินการตลาดกันอยู่ในประเทศไทย
natazia เป็นยากินสำหรับคุมกำเนิดมี 28 เม็ดแต่ละเม็ดจะถูกแบ่งเป็นสี่กลุ่มตามสีดังนี้
Natazia มีฮอร์โมน 2 ชนิดคือ estradiol valerate+dienogest
ช่วงที่1/เม็ดที่ 1-2/ สีเหลือง จะประกอบด้วยตัวยา เอสโตรเจน 3 มิลลิกรัม
ช่วงที่2/เม็ดที่ 3-7/ สีแดงอ่อน ประกอบด้วยตัวยา เอสโตรเจน 2มิลลิกรัม และ โปรเจสติน ชนิดใหม่ชื่อว่า ไดอีโนเจส (dienogest) 2 มิลลิกรัม
ช่วงที่3/เม็ดที่8-24/ สีเหลือง ประกอบด้วยตัวยา เอสโตรเจน 2 มิลลิกรัม และไดอีโนเจส 3มิลลิกรัม
ช่วงที่4/เม็ดที่25-26/ สีแดงเข้ม ประกอบด้วยตัวยา เอสโตรเจน 1 มิลลิกรัม
ส่วนเม็ดสีขาวที่เหลือ ไม่มีตัวยา เราจะเรียกมันว่ายาหลอก(หลอกให้กินครบ 28เม็ดคนกินจะได้ไม่ลืมว่ากินแผงถัดไปเมื่อไร)
คำถามแรกเมื่ออ่านถึงตรงนี้ต้องถามแน่ๆ จะแบ่งยาให้มั่วๆทำไมหลายๆกลุ่ม เพราะปกติ มีแบบเดียวก็งงกันอยู่แล้ว ..จริงครับผมก็ไม่ค่อยสบายใจในเรื่องนี้เพราะจะทำให้ผู้ใช้ยาสับสนได้ และส่งผลต่อการคุมกำเนิดและการรักษาต่อไป แต่การแบ่งยาให้มีหลายระดับฮอร์โมนน้ันมีข้อดีอยู่ครับ คือเลียนแบบการหลั่งฮอร์โมนของร่างกายคนเพราะปกติร่างกายคนไม่ได้หลั่งฮอร์โมนเท่าๆกันทุกวันมันจะขึ้นๆลงๆเหมือนคลื่น ดังนั้นหากยาคุมฯทำออกมาได้ใกล้เคียงกับที่ร่างกายเราทำ ร่างกายเรารู้สึกว่าได้ฮอร์โมนปกติจะได้ไม่ต่อต้านไรเงี้ย ...^_^
ต่อมาเรื่องตัวยาตัวใหม่ที่เป็นส่วนประกอบหลักในยาคุมยีห้อNataziaคือ ไดอีโนเจส(dienogest) ยาตัวนี้เป็นฮอร์โมนเพศหญิงสังเคราะห์ประเภทโปรเจสโตเจน หน้าที่หลักของฮอร์โมนตัวนี้ในยาคุมคือสร้างเยื้อเมือกปกคลุมปกมดลูกส่งผลให้สเปิร์มผ่านเข้าไปยังมดลูกได้าก, ทำให้เนื้อเย้อบุมดลูกไม่พร้อมที่จะรับการฝังตัวของไข่ที่ผสมกับเสปิร์มแล้ว นอกจากนั้นด้วยควาใหม่ของมันยังสามารถต้านฤทธิ์ฮอร์โมนเพศชายในตัวผู้หญิงได้(ทั้งผู้หญิง และชายจะมีฮอร์โมนทุกแบบเหมือนกันต่างกันที่ปริมาณ) ผลของมันคือช่วยลดการเกิดสิว และไม่ทำให้หน้ามัน แต่ปรากฎว่าเมื่อผมไปอ่านผลการทดลองพบว่ามีผู้เข้าร่วมการทดลองราวๆ 1% ( Palcios at al.) มีอาการบวมน้ำ 0.9% ตึงคัดเต้านม 3.6% ซึ่งผมรู้สึกว่ามันเยอะไปนะ แต่ก็พบข้อดีเรื่อง ทำให้ประจำเดือนมาน้อยลงได้ในผู้หญิงที่มาเยอะผิดปกติโดยที่ไม่ได้เป็นผลจากโรคอืนๆ ดังนั้นเลยเป็นที่มาของการขึ้นทะเบียนว่าใช้คุมกำเนิดและรักษาอาการประจำเดือนมามากผิดปกติ ...การตลาดตอนนี้ที่ อเมริกาจึงเน้นไปที่ผู้หญิงมีปัญหารอบเดือนเพื่อให้ตรงกับที่ขึ้นทะเบียนไว้
สรุป Natazia จัดเป็นยาใหม่ของบริษัทยายักษ์ใหญ่แห่งเยอรมัน Bayer ทีวางจำหน่ายยาในเมืองไทยหลายๆตัว ยีห้อดังๆสำหรับคนทั่วไปก็dian, yasmin, yaz, canesten เป็นต้น โดยมี
ข้อดีคือ
1.มีตัวยาสี่ระดับ
2.สามารถช่วยลดปริมาณรอบเดือนที่เยอะเกินไป จากข้อดีีนี้ในเมืองไทยเลยมีการขึ้นทะเบียน
ตัวยาไดอีโนเจสสำหรับรักษาโรคเยื้อบุมดลูกเจริญผิดที่ได้ (จะมาเล่าให้ฟังวันหลัง)>เขียวแล้วแต่ลืมแปะ<<
ข้อเสีย
1.จากข้อดีข้อที่1 ทำให้ผู้ใช้ยาอาจเกิดอาการสับสนในการกินได้ และมีโอกาสมากทีเดียวที่จะกินยาข้ามวันทำให้ผลการใช้ยาไม่เป็นไปตามที่หวัง
2.เนื่องจากยามีฤทธิ์ลดปริมาณรอบเดือน ดังนั้นทำให้หลายๆคนเจอปัญหารอบเดือนน้อยได้ จะสร้างความไม่สบายใจแก่ผู้หญิง เพราะเค้าจะรู้สึกว่าไม่ได้ขับเลือดเสีย(จริงๆไม่ได้มีเลือดเสียนะ)
3.ราคา ..ใน usa ยานี้ขายกันที่แผงละ 851.4 บาท(คิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 36 บาท/ dolla) ถือว่าแพงโคตรๆสำหรับการคุมกำเนิดในเมืองไทย ถ้าหากจะเข้ามาขายในไทยคงไม่ใช่ราคานี้อย่างแน่นอน ผมว่าเต็มที่เลยนะราคาปลีกไม่น่าจะเกิน 500บาท
4.ไม่เหมาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะๆ BMI มากกว่า 30 เพราะบริษัทเค้าไม่ได้ทดลองไว้ว่ายาได้ผลหรือไม่ เค้าวิเคราะกันว่าที่ไม่ได้ทดลองเพราะคนอ้วนกินยาคุมไม่ว่ายีห้อใหนก็จะเกิดความเสี่ยงเรื่องโรคหลอดเลือดอุดตันจากเกร็ดเลือดได้สูงมากๆอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แนะนำ และแน่นอนครับ สาวๆทีสูบบุหรี่ ,อายุ 35 ขึ้นไปก็ไม่ควรทานเช่นกัน
ความเห็นส่วนตัวสำหรับยาคุมตัวใหม่ยีห้อนี้ รู้สึกว่าเท่าที่อ่านมาน่าจะไม่เหมาะกับคนไทยทั่วๆไปเท่าไรนักจากข้อเสียหลายๆข้อข้างต้น แต่ในทางการแพทย์ยาตัวนี้ยังถือว่าจำเป็นนะครับเพราะสามารถช่วยให้ผู้หญิงที่มีปัญหาด้านประจำเดือนที่มากกว่าปกติ สบายตัวขึ้นได้....สุดท้ายยาก็เหมือนเหรียญสองด้านมีข้อดีย่อมมีข้อเสีย ..และต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอครับ
อ้างอิง
- http://www.natazia.com/index.html
- http://labeling.bayerhealthcare.com/html/products/pi/natazia_pi.pdf
- http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2993067/
- http://www.empowher.com/reproductive-system/content/meet-natazia-new-birth-control-pill-youll-want-know?page=0,0
- http://primary.slate.com/articles/health_and_science/medical_examiner/2010/03/the_contraception_pioneers.html
- http://haamor.com
- https://en.wikipedia.org/wiki/Menstrual_cycle
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปกติแล้วการรีวิวในบ้านเราหมายถึงเอาสินค้ามาแกะ มาชิม มาโชว์ให้ดูพร้อมทั้งพูดถึงข้อดีข้อเสีย แต่สำหรับยาคุมตัวนี้ยังคงไม่ได้วางขายในบ้านเราจึงต้องใช้การอ่านข่าวมาแปลให้เพื่อนๆฟังอีกที แะลคงแปลกหน้าดูถ้าผมเอายาคุมมากินแล้วมาอธิบายว่ารู้สึกอย่างไร( ฮ่าๆๆๆ ผมยังไม่อยากมีหน้าอกใหญ่แซงภรรยาตัวเอง ^_^) ที่สำคัญยาตัวนี้ยังไม่มีแผนจะวางขายในเมืองไทย ซึ่งผมคิดเป็นการส่วนตัวว่าคงมาจากเหตุผลด้านการตลาด และลักษะของแผงยาที่เป็นยาคุมสี่ระดับ ซึ่งไม่เป็นที่นิยมใช้กันในเมืองไทยเพราะเกิดการสับสน กินผิดถูกได้ง่ายๆทำให้การใช้ยาไม่เป็นไปตามที่ แพทย์และคนกินยาต้องการ
