Belara ยาคุม ของผู้หญิงยุคใหม่


ขึ้นหัวเรื่องซะเว่อเลยแฮะเรา ฮ่าๆๆ จริงๆแล้วพยายามจะล้อไปกับการตลาดของบริษัท abbott นะครับ
ว่ายาตัวนี้เป็นยาใหม่ เหมาะกับผู้หญิงยุคใหม่ อิอิ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า ยาตัวนี้เป็นยาคุมสำหรับผู้หญิง ชนิดฮอร์โมนรวม ใน 1 เม็ด
ประกอบด้วย

30 µg EE (ethinyl estradiol)                 +          2 mg CMA (chlormadinone acetate)
• reliable standard estrogen                            • derivative of natural progesterone
                                                                      • mild anti-androgenic activity


โดยฮอร์โมนด้านซ้ายมือของผู้อ่าน จะมีเหมือนๆกันในยาคุมฮอร์โมนรวมทั่วไปอาทิ ไดแอน ยาสมิน แออนา ส่วนที่ต่างคือ ด้านซ้ายครับ ตัวที่ผมทำเป็นสีแดงไว้นะครับ ใช้ชื่อย่อว่า CMA ซึ่งทางบริษัทผู้จำหน่ายอ้างว่าดัดแปลงจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนธรรมชาติ  นั่นคือ 9-nor-testosterone series ประเด็นคือแล้วมันดียังไง ...ผมลองค้นหาจากงานวิจัยต่างๆที่เผยแพร่ทางเน็ตก็พอสรุปได้ดังนี้ครับ

1.ดีกับผิว 
ก. โดยพบว่าร้อยละ60ผู้หญิงที่ใช้ Belara เป็นเวลา 6 รอบเดือนจะยังมีผิวที่ปกติ
(ผลทดลองนี้ยืนยันว่ากินแล้วไม่เป็นสิวมากกว่าเดิม) ส่วนอีก 40% ผมยอมรับตามตรงครับ ผมหาข้อมูลส่วนนี้ไม่ได้จริงๆ เพราะข้อจำกัดการเข้าถึงงานวิจัย ต้องเสียเงินเยอะพอสมควร ประมาณ งานวิจัยละ 60$
ข.ในผู้หญิงที่กินระยะยาว คือตั้งแต่ 12 รอบเดือนเป็นต้นไป พบว่าผิวดีขึ้น (สิวน้อยลง)

2.ดีกับเส้นผม
ก.ผู้หญิงร้อยละ70ที่ใช้ Belara ตั้งแต่ 6 รอบเดือน มีเส้นผมที่ยังปกติ(เป็นการยืนยันว่าผมไม่ร่วงครับ) 
ข.เมื่อใช้ระยะยาว มากกว่า 12 รอบเดือน จะมีเส้นผมที่ดีขึ้น (หนาขึ้นนั่นเอง) และคิดในทางกลับกันใคร(หญิงหรือสาวประเภทสองที่ผมร่วงจะได้ประโยชน์เยอะจากข้อนี้ครับ)

3.ดีกับคนที่มีอาการปวดท้องจากประจำเดือน
โดยพบว่าความถี่ของการปวดท้องเมนต์ จะลดลงเมื่อใช้ตั้งแต่ 4 รอบเดือนขึ้นไป

4.น้ำหนักไม่ขึ้น (จากการกินยาคุมฯ)
84% ของผู้หญิงที่ทานยาตั้งแต่ 12 รอบเดือน ไม่พบว่ามีน้ำหนักขึ้น

5.ดีกับอารมณ์ คืออารมณ์ไม่เปลี่ยนแปลงเวลาปจด.มาไงครับ ทานแล้วอารมณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

ซึ่งไอ้ 5ข้อที่ผ่านมานี้มีแต่ข้อดีถูกใหม ครับ แหมน่าใช้ จุงเบย จริงๆครับผมอ่านแล้วยังอยากใช้เลยถ้าเป็นผู้หญิง 

ทีนี้ก็เข้ามาที่คำถามที่ว่าแล้วมันดีกว่าตัวเก่าหรือไม่ อาทิ ดีกว่าไดแอน,ยาสมิน,ยาส ฯลฯ หรือไม่

สิว:  โดยจะเน้นเปรียบเทียบกับยาคุม ไดแอน ยาสมิน ยาส และออยเลซ เท่าันั้นเพราะยาเหล่านี้ขึ้นชื่อว่าดูแลสิวดีนักแลผมก็เข้าไปหาข้อมูลใน google โดยใช้ keyword คือ chlormadinone compare cyproterone  และพบหนังสือเล่มนึง ชื่อว่า Therapy of Skin Diseases: A Worldwide Perspective on Therapeutic Approachesโดยผมได้ตัดภาพมาหนึ่งหน้าที่กล่าวเปรียบเทียบประสิทธิภาพของฮอร์โมนในยาคุมต่างๆสำหรับเรื่องสิวโดยเฉพาะ และพบดังภาพด้านล้างนะครับ 

จากหนังสือ

Therapy of Skin Diseases: A Worldwide Perspective on Therapeutic Approaches 



   หมายเหต** ไดแอนคือ cyproterone
                     ยาสและยาสมินคืิอ Drospironone
                     ออยเลซคือ desogestel 
                     Meliane คือ Gestodene 

จากรูป ก็สรุปได้ดังนี้นะครับ ไดแอน เท่ากับ ยาสมิน
ไดแอน ดีกว่า ออยเลซ
ออยเลซ ดีกว่า  meliane 
และไม่พบว่ามีการเปรียบเทียบระหว่าง belara กับยาคุมเป้าหมายของผม  เศร้า หาด้้วยคำอื่นๆก็ไม่เจอ คาดว่านักวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ทำการทดลองเปรียบเทียบ  แต่อย่างไรก็ตาม จากผลที่ค้นได้ ยาน่าใช้พอสมควร 
แต่ในด้านความปลอดภัยยังต้องดูกันต่อไปครับ ว่าจะอย่างไร เพราะยาทุกตัวมีทั้งคุณและโทษโปรดใช้ยาด้วยปัญญาเทิน สาธุ 

ก็ขอให้เืพื่อนๆ มีความสุขกับบทความฉบัับย่อๆนี้นะครับ 
                     

Update : แจ้งข่าวครับ ตอนนี้ผมไปเจอว่ากำลังมีการศึกษาเปรียบเทียบปสภ.การคุมน้ำหนักของyasmin และ belara ผลการทดลองจะออกในปี หน้าครับ อดใจรอหน่อยนะครับ 

ชื่อการทดลอง Comparison of Body Weight Change During Contraception With Belara and Yasmin



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มาทำความรู้จักยาสำหรับแก้ปวดประจำเดือนกันดีกว่า

รีวิวยา Dienogest สำหรับรักษาโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่

ข้่อดี ข้อเสีย ของมินิดอซ