ข้่อดี ข้อเสีย ของมินิดอซ

      ในท้องตลาดบ้านเรายาคุมมีเยอะมาก ไม่รู้กี่ยี้ห้อ ก็คงคล้ายกับสินค้าอื่นๆ คู่แข่งเยอะ 
ตลาดยาก็ไม่ต่างกัน อาทิ เจ้าตลาดยุคนี้ยาสมินเป็นเจ้าตลาดยาคุม สำหรับคนรักสุขภาพเพราะว่า กินแล้วไม่ค่อยอ้วนจากยาคุมเมื่อเปรียบกับยาคุมรุ่นดั้งเดิม ที่แผง 15-20บาท แต่ตอนนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไปครับ บริษัทยาทั้งหลายลงมาแย่งชิ้นปลามันกับยาสมิน โดยส่งยาคุมขนานต่างๆ
ไม่ว่าจะกินแล้วผิวสวย กินแล้วไม่อ้วน กินแล้วไม่อ๊วก ฯลฯ ว่ากันไป 
        ก็มาถึงตัวนึง ที่กำลังวิ่งแซงหลายๆยี้ห้อมา ณเวลานี้ "มินิดอซ" เริ่มเป็นที่รู้จักกันมา ซักระยะ ผ่านการตลาด
             1.ฮอร์โมนต่ำ" เหมาะกับคนที่กินยาคุมตัวอื่นๆแล้วอ๊วก ซึ่งตลาดนี้ถือว่า มินิดอซกินขาดเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจน ต่ำที่สุด คือมีเอสโตรเจนเพียง 15ไมโคกรัม ส่วนยาสมินมี 30ไมโครกรัม จึงทำให้ผู้หญิงหลายๆคน ที่เพิ่งเริ่มใช้ยาคุมแผงแรก หันมากินมินิดอซ
                 1.1 อีกข้อเสริมคือ มันมี 28(24+4)เม็ด ทำให้คนที่เพิ่งเริ่ม ทานยาคุมแผงแรกในชีวิตไม่งงกับวิธีกินและันับวัน เพราะการกินแบบ 21 เม็ด ต้องจำด้วยว่าหมดแผงไป กี่เม็ดจึงจะเริ่มแผงใหม่



 2.สามารถลดอาการผันแปรของฮอร์โมน ซึ่งนำไปสู่อาการถอนยา(withdrawal symptom) พูดแบบนี้ก็คงงง กันครับ สมัยเรียนใหม่ๆผมก็งง คือทั่วๆไปยาคุมจะมีเม็ดยา ที่มียา 21 เม็ด ดังนั้นเมื่อเรา กินไปเรื่อยๆจนหมดเม็ดที่ 21 กว่าจะเริ่มแผงใหม่ก็ ใช้เวลา 7วัน ช่วงเวลานี้พบว่าผู้หญิงมักจะมีอาการ หงุดหงิด ซึมเศร้า ซึ่งเราเรียกว่าขาดยา หรือถอนยา แต่เมื่อเพิ่มเม็ดยาที่มีตัวยาไปเป็น 24 เม็ด อาการดังกล่าวก็น้อยลง และมีเรื่องของ ควบคุมการตกไข่ พบว่าชนิด 21 เม็ด มีการตกไข่เกิดขึ้นได้ 1.4% ในขณะที่ 24เม็ด ไม่มีการตกไข่เกิดขึ้นเลย


 



3.ด้าน "ไม่ทำให้อ้วน" ในข้อนี้ถึงแม้ว่าชื่อเสียงจะสู้ยาสมินไม่ได้ แต่ก็มีการศึกษาทางวิทยาศาตร์จริงๆจังกันด้วย คือ กินแล้วอ้วน ต่างกับยาสมินใหม! ก็พบว่าไม่ต่างกัน การศึกษามีชื่อว่า Effects of two different oral contraceptives on total body water: a randomized study ซึ่งเป็นการศึักษา เพื่อจะดูว่า มินิดอซกับ ยาสมิน เนี่ยกินไป ระยะเวลานึง คนที่กินน้ำหนักจะเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันหรือไม่ ดังภาพ  
จะพบว่า ทั้งสามกลุ่ม คือ กลุ่มควบคุม กลุ่มมินิดอซ และกลุ่มยาสมิน
แทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลยทั้งเรื่องน้ำในร่างกาย ไขมันอิสระ และใขมันทั้งหมด



เหรียญย่อมมี 2 ด้าน รวมถึงยาทุกชนิด้วยเช่นกัน อีกด้านของมินิดอซที่อาจสร้างความลำบากใจให้ใช้ยาคุมได้ คือ







 มีผู้หญิงไม่เกินร้อยละ 6 ของทั้งหมดที่มีรอบเดือน หรือเลือดกะปิดกะปอย และจะพบว่า
หากทานต่อเนื่องไปซัก 6 รอบเดือน(ตรงเวลา) อาการเหล่านี้จะน้อยลงเรื่อยๆ

 สรุป 
ข้อดี 1.ฮอร์โมนต่ำส่งผลให้ผลข้างเคียง อาทิ อ๊วก น้อย
        2.มีเม็ดฮอร์โมน 24 เม็ดทำให้ควบคุมอาการขาดยาได้ดีกว่าแบบ 21 เม็ด
        3.ภาวะไข่ตก ระหว่างทานยาเกิดได้น้อยกว่าแบบ 21เม็ด หากทานยาต่อเนื่อง และไม่ลืมเลย
        4.ไม่ทำให้บวมน้ำ และน้ำหนักเพิ่มจากยาคุม
ข้อเสีย 1.อาจมีอาการขาด ประจำเดือนได้
            2.เลือดกะปิดกะปอย หรือ ประจำเดือนมาระหว่างรอบเดือน
            3.หาซื้อยังยากอยู่
         

 จากข้อมูลเหล่านี้น่าจะทำให้เพื่อนๆสามารถเลือกซื้อมิินิดอซได้สบายใจขึ้นนะครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มาทำความรู้จักยาสำหรับแก้ปวดประจำเดือนกันดีกว่า

รีวิวยา Dienogest สำหรับรักษาโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่