กรดไหลย้อนในเด็กทารก

ลูกเลี้ยงยากมากเลยคะ งอแงตลอดหลังทานนม ไม่ยอมนอนราบ ไอ มีเสียงหอบตลอด

อาการเหล่านี้อาจเป็นอากการ"กรดไหลย้อนในทารก"ก็เป็นได้


กรดไหลย้อนในเด็ก ในทารกมีด้วยหรือ? ตอบ มีครับและมีโอกาสสูงด้วยเพราะ
1.เด็กทารกอาจมีอวัยวะต่างๆพัฒนาไม่สมบูรณ์ในกรณีนี้คือหูรูดระหว่างกระเพาะและหลอดอาหาร
2.หลอดอาหารอาจจะเคลื่อนไหวไม่สมบูรณ์ทำให้อาหารลงไปที่กระเพาะช้า
3.กระเพาะอาหารยังบีบตัวได้ไม่สมบูรณ์ทำให้อาหารลงสู่ลำไส้เล็กได้ช้า
4.เด็กส่วนมากทานนมในท่านอน ซึ่งมีโอกาสสูงที่อาหารจะไหลออกมา ที่หลอดอาหาร

จะรู้ได้อย่างงไรว่าเด็กมีอาการกรดไหลย้อน ไม่ใช่เด็กเลี่ยงยาก หรือโคลิก
ตอบ>>ต้องสังเกตุอาการของลูกว่าร้องตอนใหนครับ เช่นร้องเมื่อทานนมเสร็จแล้วนอน หรือมีอาการไอ เสียงแหบ แหวะนมบ่อยเกินไป และเด็กอาจไม่ยอมนอนราบเลยก็ได้ เช่นพ่อแม่ให้กินนมเสร็จจะให้ลูกนอน แต่เด็กกลับร้องให้โยเยทุกครั้งเป็นต้น

กรดไหลย้อนในทารกมีวิธีการรักษาอย่างไร
ตอบ จะรักษาคล้ายๆกับในผู้ใหญ่เลยครับโดยแพทย์จะเลือกยาที่ปลอดภัยในเด็กเช่นยาที่มีส่วนประกอบของยา ranitidine, lansoprazole และใช้ร่วมกับยาลดอาการปวดแสบร้อนให้เด็กเพราะยารักษาข้างต้นจะยังไม่ทำให้เด็กหายปวดทันที่ โดยยาลดอาการปวดแสบที่ว่าคือพวกยาที่มีส่วนประกอบของอัลจินิก แอสิด(alginic acid) เช่น algycon, หรือยากลุ่มแอนตาซิด หรือธาตุน้ำขาวที่เราๆเรียกติดปากกัน

หากเด็กเป็นกรดไหลย้อนจะอันตรายมากหรือไม่
ตอบ เป็นไปได้เหมือนกันที่เด็กจะมีอันตราย (แต่คงไม่ถึงขั้นเสียชีวิต) อย่างมากก็น้ำหนักลด ไอ หรือมีอาการหอบ สาเหตที่เป็นอันตรายได้เพราะอาการกรดไหลย้อนในทารกนั้นพ่อแม่จะสังเกตได้ยากเพราะจะคล้ายๆกับอาการของเด็กเลี้ยงยาก หรือพวกโคลิก ดังนั้นหากผู้ปกครองสังเกตเห็นว่าลูกแหวะนมบ่อย หรือหลังกินนมไม่ยอมนอนราบเลย นี่ให้สงสัยไว้ก่อนได้เลยครับ

เราจะมีวิธีป้องกันกรดไหลย้อนในทารกได้หรือไม่
ตอบ ได้ครับ ด้งนี้(จะคล้ายการป้องกันในผู้ใหญ่)
  1. ให้นมลูกครั้งละนิดๆ แต่เพิ่มความถี่ขึ้นเช่นก่อนทราบว่าเด็กเป็นกรดไหลย้อนให้นมทุก 3ชั่วโมงแต่เมื่อทราบ ก็ปรับให้เป็นทุก 1-2 ชั่วโมง
  2. ให้นมลูกเรียบร้อยแล้ว อุ้มให้ลูกเรอทุกครั้ง และเมื่อนอนก็ให้หัวสูงจากพื้นซักหน่อย
  3. ให้ลูกนอนหัวสูง และให้ลูกนอนตะแคงซ้ายบ่อยๆหลังกินนมเสร็จเพราะกระเพาะของคนเราจะเอียงไปทางซ้ายการทำดังกล่าวก็จะช่วยให้นมไม่ไหลย้อนออกมาได้ง่ายๆ
  4. ให้พ่อแม่ สังเกตอาการของลูกให้ดีและดูพฤติกรรมว่าเด็กร้องให้หรือไม่หลังทานนม หรือเวลานอน
เพียงเท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็ทำให้ลูกห่างไกลจากกรดไหลย้อนได้แล้ว จากเด็กเลี้ยงยากก็จะกลายเป็นเด็กเลี้ยงง่ายๆ ในไม่กี่วัน ^_^ หากมีอะไรติชมก็ติดต่อ หรือคอมเม้นกันที่

https://www.facebook.com/BirdPharmacy
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลจาก www.kapook.com และ www.mims.com
Credit pic :http://www.babynature.co.za/nature-baby/wp-content/uploads/babyreflux.jpg


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มาทำความรู้จักยาสำหรับแก้ปวดประจำเดือนกันดีกว่า

รีวิวยา Dienogest สำหรับรักษาโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่

ข้่อดี ข้อเสีย ของมินิดอซ