ยา Accutane คือยาอะไร?
Accutane (isotretinoin) เป็นยาสำหรับรักษาสิวระดับรุนแรงสังเคราะห์และว่างจำหน่ายโดยบริษัทRoche
ยาตัวนี้ได้รับการขึ้นทะเบียน โดยองค์การอาหารและยาของ สหรัฐในปี 1982 (2525)
กลไกการออกฤทธิ์
กลไกจริงๆของยาตัวนี้ไม่มีใครทราบ แต่มีรายงานการวิจัยหลายๆชิ้นชี้ว่ายาตัวนี้ทำให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่าเซลล์ฆ่าตัวตาย(apoptosis) โดยเฉพาะเซลล์ผลิตไขมันที่ผิวหนัง แต่ก็มีอีก 1 งานวิจัยที่ชี้ว่าหากรับประทานยานี้เป็นเวลาอย่างน้อย 8 อาทิตย์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับ ยีนส์กว่า 100 ชนิด
ยานี้ใช้ได้ผลดีในคนที่เป็นสิวขึ้นรุนแรง ซึ่งผลการรักษาค่อนข้างจะให้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยผู้ป่วยกว่า 80% หายขาดหรือ เป็นน้้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม คงตรงกับคำกล่าวโบราณที่ว่า "ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง" ยาดี ก็ต้องแลกมากับผลข้างเคียงที่รุนแรงเช่นกัน เช่น โรคลำไส้อักเสบโครห์น(Crohn's disease), ผลเสียต่อเด็กในครรภ์ และฆ่าตัวตาย
การใช้
ปกติแพทย์จะพิจจารณาจ่ายยานี้เมื่อมีขนาดหัวสิวอุดตันตั้งแต่5มม.เป็นต้นไป การรักษา ผู้ป่วยจะต้องได้รับทราบข้อจำกัด ผลข้างเคียง และระยะเวลาในการรักษา เพราะส่วนมากมักจะใช้การรักษาที่นาน ต้องยอมรับในผลที่ตามมาให้ได้ เช่น ปากแห้ง ตาแห้ง หรือปวดหัว ฯลฯ (เพิ่มเติม ในช่วงแรกของการรักษาโรคสิวอาจดูแย่ลงก่อนที่จะค่อยๆจางไป)
ขนาดยาของ Accutane อยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.5-1.0 มก./กก./วัน
รูปแบบยา จัดจำหน่ายในแคปซูลนิ่ม ขนาด 10, 20 และ 40มก.
วิธีใช้ วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร
ระยะเวลาการรักษา 15-20 อาทิตย์ และอาจจะรักษาซ้ำได้หากอาการกลับมาเป็นอีก
ข้อห้ามใช้ ผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือกำลังตั้งครรภ์
การแจ้งเตือนและเรียกยาคืน
การสั่งจายยา Accutane เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1982 และในปีต่อมา มีรายงานทารกผิดปกติจากเหตที่มารดาทานยานี้ระหว่างตั้งครรภ์ ในปี 1983 ก็มีจดหมายแจ้งเตือนต่อสาธารณ 8 ฉบับ ถึงการใช้ยานี้และผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงระดับกลางที่อาจเจอได้ในผู้ปวยบางคน
Accutane (isotretinoin) เป็นยาสำหรับรักษาสิวระดับรุนแรงสังเคราะห์และว่างจำหน่ายโดยบริษัทRoche
ยาตัวนี้ได้รับการขึ้นทะเบียน โดยองค์การอาหารและยาของ สหรัฐในปี 1982 (2525)
กลไกการออกฤทธิ์
กลไกจริงๆของยาตัวนี้ไม่มีใครทราบ แต่มีรายงานการวิจัยหลายๆชิ้นชี้ว่ายาตัวนี้ทำให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่าเซลล์ฆ่าตัวตาย(apoptosis) โดยเฉพาะเซลล์ผลิตไขมันที่ผิวหนัง แต่ก็มีอีก 1 งานวิจัยที่ชี้ว่าหากรับประทานยานี้เป็นเวลาอย่างน้อย 8 อาทิตย์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับ ยีนส์กว่า 100 ชนิด
ยานี้ใช้ได้ผลดีในคนที่เป็นสิวขึ้นรุนแรง ซึ่งผลการรักษาค่อนข้างจะให้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยผู้ป่วยกว่า 80% หายขาดหรือ เป็นน้้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม คงตรงกับคำกล่าวโบราณที่ว่า "ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง" ยาดี ก็ต้องแลกมากับผลข้างเคียงที่รุนแรงเช่นกัน เช่น โรคลำไส้อักเสบโครห์น(Crohn's disease), ผลเสียต่อเด็กในครรภ์ และฆ่าตัวตาย
การใช้
ปกติแพทย์จะพิจจารณาจ่ายยานี้เมื่อมีขนาดหัวสิวอุดตันตั้งแต่5มม.เป็นต้นไป การรักษา ผู้ป่วยจะต้องได้รับทราบข้อจำกัด ผลข้างเคียง และระยะเวลาในการรักษา เพราะส่วนมากมักจะใช้การรักษาที่นาน ต้องยอมรับในผลที่ตามมาให้ได้ เช่น ปากแห้ง ตาแห้ง หรือปวดหัว ฯลฯ (เพิ่มเติม ในช่วงแรกของการรักษาโรคสิวอาจดูแย่ลงก่อนที่จะค่อยๆจางไป)
ขนาดยาของ Accutane อยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.5-1.0 มก./กก./วัน
รูปแบบยา จัดจำหน่ายในแคปซูลนิ่ม ขนาด 10, 20 และ 40มก.
วิธีใช้ วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร
ระยะเวลาการรักษา 15-20 อาทิตย์ และอาจจะรักษาซ้ำได้หากอาการกลับมาเป็นอีก
ข้อห้ามใช้ ผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือกำลังตั้งครรภ์
การแจ้งเตือนและเรียกยาคืน
การสั่งจายยา Accutane เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1982 และในปีต่อมา มีรายงานทารกผิดปกติจากเหตที่มารดาทานยานี้ระหว่างตั้งครรภ์ ในปี 1983 ก็มีจดหมายแจ้งเตือนต่อสาธารณ 8 ฉบับ ถึงการใช้ยานี้และผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงระดับกลางที่อาจเจอได้ในผู้ปวยบางคน
- รบกวนการมองเห็นเวลากลางคืน
- อาจทำให้กระดูกบางลงได้
- เพิ่มความไวของผิวหนังต่อรังสี UV
- ปากแตก แห้ง
- เลือดกำเดาไหล
- ลักษณะเล็บเปลี่ยนแปลง
- ผิวแห้ง
- ผมร่วง
- เลือดออกตามไรฟัน หรือเหงือก
- ชา
- เสียงเปลี่ยน
- ปวดหัว
- แผลหายช้า
- ปากและตาแห้ง
- ปวดกล้ามเนื้อ
ผลข้างเคียงต่อการตั้งครรภ์
อย.สหรัฐ รวมถึงไทยได้จัดยา Accutan อยู่ระดับที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานเพราะจะทำให้เด็กพิการแต่กำิเนิดทั้งภายใจและ/หรือ ภายนอกร่างกายเช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ หน้าผิดรูป ไม่มีใบหูฯลฯ
โดยมีรายงานว่าพบผลดังกล่าวในทารกที่มารดาได้รับ Accutane ถึง 42%
ลำไส้อักเสบ
ไม่เพียงแต่ผลเสียต่อทารกในครรภ์ ยังพบว่าวัยผู้ใหญ่ บางครั้งโรคอาจรุ่นแรงถึงขั้น ลำไส้อุดตันได้ในบางราย
ฆ่าตัวตาย
ปัญหาทางจิตที่มีความเชื่อมโยงกับการได้รับยา Accutane เริ่มมีรายงานตั้งแต่ ปี 1982 ถึง 2000
โดย อย.สหรัฐได้รับรายงานการฆ่าตัวตาย 37รายและ 110 รายต้องนอนโรงพยาบาลจากภาวะโรคซึมเศร้า หรือจากพฤติกรรมฆ่าตัวตาย และอีก 284 เป็นโรคซึมเศร้าแต่สามรถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้