ฉี่บ่อยรู้สึกว่าฉี่ไม่สุด นี่เราเป็นอะไร

คุณผู้หญิงคงเคยเจออาการแบบนี้บ้างใหมอยู่ๆก็รู้สึกว่าฉี่ไม่สุด ฉี่กระปิดกระปอย ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ อาการแบบนี้ผมเจอที่ร้านยาบ่อยมากครับส่วนมากเมื่อคุยกันไปจะพบว่าก่อนหน้าที่ จะมีอาการดังกล่าว มีการกลั้นปััสสาวะมาก่อน หรือเพิ่งกลับจากการนั่งรถระยะไกลหรือ ไม่อยากเข้าห้องน้ำเพราะอยู่นอกสถานที่หรือเพิ่งแต่งงานใหม่ๆ หากมีประวัติ ร่วมกับอาการข้างต้นส่วนมากมักจะเป็นโรคที่มีชื่อสากลของไทยว่ากระเพาะปัสสาวะอักเสบ ภาษาอังกฤษเรียก ซิสไตติส(Cystitis) แต่การซักประวัติอย่างเดียวไม่สามารถยืนยันโรคได้ 100% หากเป็นบ่อยๆผมก็จะแนะนำว่า ลองไปโรงพยบาลซักหน่อยนะครับ จะได้หาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาการท่อปัสสาวะอักเสบ หายเร็วครับ 3-5 วันหลังไ้ด้รับยาฆ่าเชื้อ

 สาเหตุของโรค เนื่องจากสรีระ ของท่อปัสสาวะผู้หญิงนั้นสั้นกว่าผู้ชายทำให้ โอกาสทีู่้ผู้หญิงจะมีเชื้อแบคทีเรียจากทวารหนักจะเข้าไปเพาะตัว และแบ่งตัวจนทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อาจารย์ผมตอนเรียนมหาวิทยาลัยเคยเปลียบเทียบโรคนี้ให้เห็นง่ายๆ ว่า ให้จิตนาการว่ากระเพาะปัสสาวะ เป็นเหมือนบ่อน้ำที่มีประตูระบายน้ำ หากไม่มีการระบายน้ำทิ้งเลย ไม่ไหลออก เราก็จะพบว่าไม่นานน้ำจะเสีย มีกลิ่นเหม็น ที่น้ำเสียก็เพราะว่าแบคทีเรียมีเวลาในการเพิ่มจำนวนจนเยอะถึงระดับที่สามารถทำให้เราได้กลิ่นเหม็น สีของน้ำเปลี่ยนไป เราจึงรับรู้ว่าน้ำเสีย เช่นเดียวกันกับ กระเพาะัปัสสาวะั หากเราไม่ให้ปัสสาวะไหลออกเลย และบังเอิญมีเชื้อแบคฯทีเรียจากปากทวารหนังเล็ดลอดไปอยู่ที่ท่อปัสสาวะได้ มันก็มีโอกาส ได้แบ่งตัวเหมือนในบ่อน้ำ จนถึงจำนวนนึงมันสามารถสร้างความรำคาญแก่เรา คือทำให้มีอาการปวดเกร็ง ฉี่ไม่สุด และหากรุนแรงมากอาจมีลามไปที่ กรวยไต มีเลือดออก เป็นไข้ ฯลฯ

 การรักษา หากมีประวัตดังกล่าว และไม่ได้แพ้ยาอะไรส่วนมากผมจะให้ยาดังนี้ครับ
 norfloxacin 400 mg ทานเช้า 1 เม็ด เย็น อีก 1 เม็ด ก่อนอาหาร 30 นาที + ยาอื่นๆแล้วแต่อาการเช่น ปวด มีไข้ ก็จ่าย พาราฯ ร่วมกับคำแนะนำ คือให้ดื่มน้ำบ่อยๆ มากๆ จะได้มีฉี่เยอะๆ เพื่อให้ฉี่ใหม่ๆเข้าไปชะล้างแบคฯ ออกไปให้มากที่สุด และหากปวดฉี่ ก็ให้เข้าห้องน้ำ พยายามอย่าไปอั้นฉี่

 ระยะเวลาการรักษา 3-5 วัน
 การป้องกัน(ข้อมูลจากwww.phyathai.com)
1.หมั่นรักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอด ท่อปัสสาวะและทวารหนัก
 2.บางครั้งแบคทีเรียเมื่อหลุดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะแล้ว ต้องใช้เวลาในการฟักตัวของเชื้อ ซึ่งการดื่มน้ำมากขึ้นจะสามารถขับแบคทีเรียออกมาได้
 3.ไม่ควรกลั้นปัสสาวะไว้เป็ยระยะเวลานานๆ เพราะการกลั้นปัสสาวะนานเป็นปัจจัยในการส่งเสริมให้เชื้อแบคทีเรียมีระยะฟักตัวในกระเพาะปัสสาวะนานขึ้นยิ่งทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย
 4.ผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบบ่อยๆ เรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุแอบแฝงอื่นๆ เช่น นิ่ว กระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติจากระบบประสาทควบคุม หรือมีอาการอุดตันในกระเพาะปัสสาวะ
 ความร้ายแรงของโรค ไม่ค่อยร้ายแรงครับ นอกจากรายที่รักษาด้วยยาข้างต้นไม่ได้ผล หรือเป็นเรื้อรังจนเชื้อมีการลุกลามไปที่อวัยวะส่วนอื่น ก็ต้องรีบไปโรงพยาบาลครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มาทำความรู้จักยาสำหรับแก้ปวดประจำเดือนกันดีกว่า

รีวิวยา Dienogest สำหรับรักษาโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่

ข้่อดี ข้อเสีย ของมินิดอซ