กินยาคุมแล้วประจำเดือนมากระปิดกระปอย


สวัสดีครับไม่ได้เขียนบล๊อกนานมากแล้ว ไม่ได้หายไปใหนครับไปลุยงานบางอย่างอยู่ อิอิ รอบนี้กลับมาเขียนเพราะมีคนถามเข้ามาเยอะครับว่าทำไมประจำเดือนชอบมากระปิดกระปอยเวลากินยาคุมฯ ซึ่งทำให้เพื่อนๆหลายๆคนเครียดได้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปูพื้นเรื่องยาคุมกำเนิดซักเล็กน้อยสำหรับใครที่ทราบแล้วข้ามไปเลย
ยาคุมกำเนิดชนิดกินแบ่งได้ 2ชนิด

1. ชนิดฮอร์โมนรวม ในยาหนึ่งเม็ดมีฮอร์โมนสองชนิดได้แก่เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน
    1.1 ยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีเอสโตรเจนสูง (35 ไมโครกรัมต่อเม็ดขึ้นไป)
    1.2 ยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีเอสโตรเจนกลางๆ (30-35 ไมโครกรัมต่อเม็ด)
    1.3 ยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีเอสโตรเจนต่ำ (น้อยกว่า 30 ไมโครกรัมต่อเม็ด)
2. ชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ในยาหนึ่งเม็ดมีฮอร์โมน ชนิดเดียวได้แก่ โปรเจสเตอโรน

โดยส่วนมากถ้ายาคุมมีเอสโตรเจนมาก    >>>รอบเดือนจะมามาก ถึงปกติ
  ถ้าเอสโตรเจนน้อยหรือไม่มีเอสโตรเจน >>> รอบเดือนจะมาน้อย
**ไม่เสมอไป แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้**
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้หัวข้อของเราคือรอบเดือนผิดปกติมากระปิดกระปอยหมายความว่า เรากำลังสนใจเรื่องปริมาณรอบเดือน ดังนั้นเราต้องคุยกันเรื่องปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนครับ

จากข้อมูลข้างต้นผมกำลังจะบอกว่าถ้าเพื่อนๆคนใหนก็ตามที่กินยาคุมที่มีเอสโตรเจนสูงเช่น ยีห้อ อนามัย, เจนนี่เอฟเอ็มพี ฯลฯ จะไม่ค่อยเจอเรื่องเลือดมากระปิดกระปอยนั่นก็เพราะว่าเอสโตรเจนในเม็ดยามีผลโดยตรงต่อปริมาณเลือดรอบเดือนครับ (ป.ล.อาจมีบางคนเป็นตรงข้ามกับที่กล่าว)

ในทางกลับกันหากใครกินยาคุมฯที่มีเอสโตรเจนต่ำ ถึงไม่มีเลย คือข้อ 1.3 และข้อ 2 จะมีโอกาสที่รอบเดือนมากระปิดกระปอยได้สูงตามไปด้วย เช่นยีห้อ ยาส,มินิดอซ,เมอซิลอน,ซีราเซ็ท,เอ็กลูตอน

ดังนั้นหากเพื่อนๆคนใหนเพิ่งกินยาคุม แผงที่ 1-3 แล้วมีอาการดังกล่าวก็อย่าเพิ่งตกใจครับลองหา
สาเหตดูก่อนว่า
1.กินยาคุมชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ หรือ กินยาคุมที่ไม่มีเอสโตรเจนหรือเปล่า
2.ระหว่างที่กินยาคุมฯ เครียด น้ำหนักลด ป่วยหรือไม่
3.ระหว่างที่กินยาคุมฯ ได้กินยาใดๆไปด้วยหรือไม่โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
4.ระหว่างที่กินยาคุมฯ ลืมกินยา หรือ กินยาผิดเวลาหรือไม่

ถ้าเพื่อนๆเจอสาเหตุเหล่านี้ก็สบายใจระดับนึงครับว่าอาจจะมาจากผลข้างเคียงของยาแต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านอื่นๆอยู่บ้างเหมือนกัน อะ! อย่าเพิ่งตกใจครับ ..ความเสี่ยงด้านอื่นๆจะเจอค่อนข้างน้อยครับ ซึ่งถ้าไม่สบายใจจริงๆแนะนำพบแพทย์ประจำตัวเพื่อปรึกษาต่อไปครับ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยาก็เหมือนเหรียญ มีสองด้านเสมอ...ก่อนใช้ปรึกษาแพทย์ และเภสัชกรทุกครั้ง

ขอบคุณรูปจาก hamor.com http://bit.ly/2ploC7t

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มาทำความรู้จักยาสำหรับแก้ปวดประจำเดือนกันดีกว่า

รีวิวยา Dienogest สำหรับรักษาโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่

ข้่อดี ข้อเสีย ของมินิดอซ